การก่อตั้งนครหลวงอิสลามของศาสนูปถัมภ์ 'คอลฟะห์' จากการยึดครองจักรวรรดิซาซานิยะ: การปฏิวัติศาสนาและการเมืองในเปอร์เซียโบราณ

blog 2024-12-16 0Browse 0
การก่อตั้งนครหลวงอิสลามของศาสนูปถัมภ์ 'คอลฟะห์'  จากการยึดครองจักรวรรดิซาซานิยะ: การปฏิวัติศาสนาและการเมืองในเปอร์เซียโบราณ

การก่อตั้งนครหลวงอิสลามของศาสนูปถัมภ์ ‘คอลฟะห์’ (Caliphate) จากการยึดครองจักรวรรดิซาซานิยะ (Sasanian Empire) ในศตวรรษที่ 6 เป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ของโลกอิสลามและตะวันออกกลาง เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิวัติทางศาสนา การเมือง และสังคมอย่างครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาค

จักรวรรดิซาซานิยะปกครองเปอร์เซีย (Persia) มาหลายศตวรรษ โดยมีศาสนา Zoroastrianism เป็นศาสนาหลัก การปกครองของพวกเขายึดถืออำนาจเบ็ดเสร็จและมักจะเผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มชนที่ถูกกดขี่

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ปัญหาภายในจักรวรรดิซาซานิยะทวีความรุนแรงขึ้น ประชาชนเริ่มหันเหไปสู่ศาสนาอื่นๆ รวมทั้งศาสนาอิสลาม ซึ่งกำลังแพร่หลายไปทั่วคาบสมุทรอาหรับ

พระเจ้าคอเซโร (Khusrow II) เป็นจักรพรรดิซาซานิยะผู้ทรงอำนาจและฉลาด แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในได้อย่างเด็ดขาด การต่อสู้ทางศาสนา และความขัดแย้งระหว่างชนชั้น ทำให้จักรวรรดิซาซานิยะอ่อนแอลง

ขณะเดียวกัน ศาสนาอิสลามกำลังเจริญรุ่งเรืองขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ ภายใต้การนำของศาสดามูฮัมหมัด (Muhammad) หลังจากพระองค์สิ้นชีวิตในปี ค.ศ. 632 อับดุลเราะห์มาน บิน ออฟ (Abu Bakr) ขัดทะยางผู้สืบทอดต่อมาได้เริ่มต้นการขยายอาณาเขตของอิสลาม

กองทัพอิสลามภายใต้การนำของนายพล Khaolid ibn al-Walid เริ่มบุกโจมตีจักรวรรดิซาซานิยะในปี ค.ศ. 634 และสามารถยึดครองดินแดนเปอร์เซียได้อย่างรวดเร็ว

ความสำเร็จของกองทัพอิสลามมาจากหลายปัจจัย:

  • ความแข็งแกร่งทางทหาร: กองทัพอิสลามมีความคล่องตัวและมีเทคนิคการต่อสู้ที่เหนือกว่า
  • ศรัทธาและอุดมการณ์: ทหารอิสลามสู้ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในศาสนาของตน
  • ความอ่อนแอภายในจักรวรรดิซาซานิยะ: การต่อสู้ทางศาสนา และความขัดแย้งระหว่างชนชั้น ทำให้จักรวรรดิซาซานิยะไม่สามารถ団結และต่อต้านกองทัพอิสลามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การยึดครองดินแดนเปอร์เซียโดยกองทัพอิสลามเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์โลกอิสลาม ในปี ค.ศ. 651 ก่อนสงครามครั้งสุดท้ายที่สะเทือนขวัญ แคว้นฟาร์ส (Fars) ซึ่งเป็นแก่นของจักรวรรดิซาซานิยะ ถูกยึดครอง และนครหลวง Ctesiphon ถูกรุกคืบเข้ามา

จากการล่มสลายของจักรวรรดิซาซานิยะ ศาสนา Zoroastrianism เริ่มเสื่อมความนิยมลง และศาสนาอิสลามกลายเป็นศาสนาหลักของเปอร์เซีย

หลังจากการยึดครอง คาลีฟอูมัร (Caliph Umar) ผู้ปกครองอิสลามคนแรกได้ตัดสินใจตั้งนครหลวงใหม่ขึ้นที่เมือง Madain ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับ Ctesiphon ที่เคยเป็นนครหลวงของจักรวรรดิซาซานิยะ

การเลือก Madain เป็นนครหลวงใหม่นั้นมีหลายเหตุผล:

  • ตำแหน่งที่ยุทธศาสตร์: Madain อยู่ในตำแหน่งที่ยุทธศาสตร์และสามารถควบคุมเส้นทางการค้าที่สำคัญได้
  • ความรุ่งเรือง: Madain เป็นเมืองที่รุ่งเรือง มีประชากรมาก และมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์

นครหลวงใหม่นี้กลายเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิอิสลาม และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของการเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และศาสนา

สาเหตุของการยึดครอง ผลที่ตามมา
ความอ่อนแอภายในจักรวรรดิซาซานิยะ การแพร่กระจายของศาสนาอิสลามไปทั่วเปอร์เซีย
ความแข็งแกร่งทางทหารของกองทัพอิสลาม การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม
ศรัทธาและอุดมการณ์ของทหารอิสลาม การก่อตั้งนครหลวงอิสลามใหม่

การยึดครองจักรวรรดิซาซานิยะและการก่อตั้งนครหลวงอิสลามใหม่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้โลกอิสลามเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากจุดเริ่มต้นของศาสนาอิสลามในคาบสมุทรอาหรับ ศาสนาอิสลามได้แพร่กระจายไปทั่วตะวันออกกลางและส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้

การยึดครองจักรวรรดิซาซานิยะยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความแข็งแกร่งและอำนาจของศาสนาอิสลามในช่วงเวลานั้น

เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล และส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโลกมุสลิมมาจนถึงทุกวันนี้

TAGS