การประท้วงในปี 2011-2013 การคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและความรุนแรงของรัฐ

blog 2025-01-07 0Browse 0
 การประท้วงในปี 2011-2013 การคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและความรุนแรงของรัฐ

หากพูดถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซียในศตวรรษที่ 21 เหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ “การประท้วงในปี 2011-2013” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “การปฏิวัติโบลิเชวิคครั้งที่สอง”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากความไม่พอใจต่อการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าเป็นการโกงอย่าง trắngทั้งหน้าของวลาดิมีร์ ปูติน และพรรครัสเซียนยูนิเต็ด ซึ่งได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012

การประท้วงครั้งนี้เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2011 หลังจากที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากฝ่ายตรงข้ามอย่างมิไฮล์ กอร์บาเชฟถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัครเลือกตั้งโดยไม่เป็นธรรม การประท้วงได้แพร่กระจายไปทั่วรัสเซีย โดยมีผู้เข้าร่วมนับแสนคน

ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่ยุติธรรม และให้ปูตินลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนั้น พวกเขายังคัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความรุนแรงของรัฐบาล

การประท้วงในปี 2011-2013 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย เพราะมันแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนในการต่อต้านระบอบเผด็จการ และเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

สาเหตุของการประท้วง:

  • การเลือกตั้งที่ถูกมองว่าเป็นการโกง: การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 ถูกมองว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ยุติธรรม โดยมีรายงานมากมายเกี่ยวกับการทุจริตและการคุกคามผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม

  • ความไม่พอใจต่อการปกครองของปูติน: ปูตินได้ครองอำนาจมานานกว่า 10 ปี และมีแนวโน้มที่จะยืดเวลาการดำรงตำแหน่งต่อไป ผู้ประท้วงจำนวนมากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

  • ความขาดแคลนสิทธิพลเมือง: รัสเซียภายใต้การปกครองของปูตินถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การ đàn ápสื่อ และการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก

ผลลัพธ์ของการประท้วง:

  • การปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรง: รัฐบาลรัสเซียใช้กำลังตำรวจและทหารในการปราบปรามผู้ประท้วง ซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต

  • การติดคุกของผู้นำฝ่ายตรงข้าม: ผู้นำฝ่ายตรงข้ามหลายคนถูกจับกุมและจำคุกในข้อหาต่างๆ เช่น การยุยงให้เกิดความไม่สงบ

  • การเสริมสร้างอำนาจของปูติน: แม้ว่าจะมีการประท้วงอย่างรุนแรง แต่ปูตินก็ยังคงรักษาอำนาจของเขาไว้ได้ และการประท้วงไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ

ตารางแสดงผลกระทบของการประท้วง:

ผลกระทบ รายละเอียด
การปราบปรามผู้ประท้วง ผู้ประท้วงหลายคนถูกจับกุม, ถูกทำร้าย และถูกจำคุก
การติดคุกของผู้นำฝ่ายตรงข้าม ผู้นำฝ่ายตรงข้าม เช่น Alexei Navalny ถูกจับกุมและถูกจำคุก
การเสริมสร้างอำนาจของปูติน การประท้วงไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และปูตินยังคงรักษาอำนาจของเขาไว้ได้

บทเรียนจากการประท้วง:

  • ความสำคัญของการมีระบบเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส
  • ความจำเป็นในการปกป้องสิทธิพลเมืองและเสรีภาพในการแสดงออก
  • แม้ว่าการต่อต้านระบอบเผด็จการอาจมีความยากลำบาก แต่ประชาชนก็ยังคงมีพลังที่จะเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง

การประท้วงในปี 2011-2013 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความซับซ้อนและความท้าทายของการเมืองในรัสเซีย แม้ว่าการประท้วงจะไม่ได้บรรลุเป้าหมายในการโค่นล้มปูติน แต่ก็ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซีย เพราะมันแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนในการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของตน

TAGS